วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Recovery TSP. High volume air sampler การซ่อมแซมปรับปรุงเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP ที่ยกเลิกการใช้งานให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้

Recovery  TSP. High volume air sampler

               บทความนี้ผมจะขอกล่าวถึงการทำงาน งานที่เรียกว่า Project  ซึ่งมันก็เป็น โปรเจคแรก ของการทำงานที่ใหม่ ซึ่งมันก็เป็นโปคเจคที่ภาคภูมิใจของการเป็นวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมเลย ที่ได้ทำโปรเจคร่วมกับพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงานในแผนก ได้ร่วมมือกัน ได้ใช้ความรู้ความสามารถ และที่สำคัญโปรเจคนี้ได้ประหยัดงบให้กับบริษัทได้อีกด้วย
การเป็นวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมในแบบของผม ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจวัดสิ่งแวดล้อมให้กับบริษัท แต่เพื่อประโยชน์ของชุมชน แน่นอนครับเราทำงานด้านไหนเราต้องรักสิ่งๆนั้น ผมทำงานด้านสิ่งแวดล้อมผมก็ต้องรักสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ                การทำ โปรเจคนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณบริษัท ขอบคุณหัวหน้าทุกระดับ ขอบคุณพี่ๆ ที่ช่วยกันคิดโปรเจคนี้ขึ้นมาช่วยกันทำจนสำเร็จ  
Project :
Recovery  TSP. High volume air sampler หรือการซ่อมแซมปรับปรุงเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP  ที่ยกเลิกการใช้งานให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้  นั่นเอง ถ้าเป็นคนที่พอจะรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ก็จะรู้ดีครับว่า TSP คืออะไร PM-10 คืออะไร PM-2.5 คืออะไร สำคัญยังไง แต่ถ้ามีเวลาผมก็จะนำข้อมูลความรู้มาใส่บทความของผมแน่นอน แต่บทความนี้ขอเป็นเรื่อง ของ TSP นะครับ
เริ่มจากหลักการเบื้องต้นของ TSP. High volume air sampler
               
การใช้เครื่องเก็บตัวอย่างชนิดอัตราการดูดอากาศสูงหรือ Hi-Vol เป็นวิธีเก็บตัวอย่างฝุ่นตามที่ระบุในกฎหมาย ฝุ่นในบรรยากาศจะถูกดูดเข้าสู่เครื่องเก็บตัวอย่างด้วยอัตราการดูดตามที่ออกแบบไว้ อากาศจะถูกบังคับให้เคลื่อนที่ผ่านทางเข้า (inlet) เข้าสู่เครื่องและถูกดักด้วยกระดาษกรองที่อยู่ภายใน ก่อนการเก็บตัวอย่าง กระดาษกรองจะต้องผ่านการชั่งน้ำหนักล่วงหน้าและนำไปชั่งอีกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นการเก็บตัวอย่างด้วยเครื่องชั่งในห้องปฏิบัติการ ปกติระยะเวลาเก็บตัวอย่างฝุ่นในบรรยากาศกำหนดไว้ 24 ชั่วโมงเพื่อใช้เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานได้ ข้อกำหนดของเครื่องมือเก็บตัวอย่างอากาศต้องพิจารณาเอกสารหรือคู่มือการใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม วิธีทั่วไปในการใช้เครื่องมือถูกกำหนดเป็นมาตรฐานจากหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
ข้อแนะนำทั่วไปของการเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองด้วยเครื่อง Hi-vol มีดังนี้
    
- ปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศที่ถูกดูดเข้าเครื่องหากมีมากจะสะสมบนกระดาษกรอง มีผลต่ออัตราการดูดอากาศ (กำหนดให้ต่ำสุดประมาณ 1.1 ลบ..ต่อนาที)ในขณะที่อัตราการดูดอากาศสูงสุดก่อนเก็บตัวอย่างไม่ควรเกิน 1.7 ลบ..ต่อนาท
    
- การระบายอากาศจากเครื่องเก็บตัวอย่างควรถูกปล่อยออกห่างจากทางเข้าของอากาศอย่างน้อย 40 ซม. และควรระวังการเป่าฝุ่นบนพื้นเข้าสู่เครื่องเก็บตัวอย่าง

  
 - อุปกรณ์ควบคุมเวลาครอบคลุม 24±1 ชม. และมีความแม่นยำในการตั้งเวลาในช่วง±30 นาที
   
- การชั่งกระดาษกรองควรควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 15 – 30°C และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิไม่ควรเกิน ±30°C ระหว่างการปรับสภาพกระดาษกรอง ร้อยละของความชื้นสัมพัทธ์ควรน้อยกว่า 50 และเปลี่ยนแปลงไม่เกินร้อยละ ±5
   
- เครื่องชั่งน้ำหนักมีความสามารถวัดได้ละเอียด 0.1 มก. พื้นที่วางกระดาษกรองของเครื่องชั่งควรมีขนาดรองรับกระดาษกรอง 8 นิ้ว × 10 นิ้ว
สำหรับการทดสอบอัตราการไหลของเครื่องเก็บตัวอย่างอากาศ
          การใช้เครื่องเก็บตัวอย่างชนิดอัตราการดูดอากาศสูงหรือ Hi-Vol จำเป็นต้องคำนึงถึงอัตราการดูดอากาศที่กำหนดให้เครื่องทำงาน นอกจากนี้ เครื่องมือเก็บตัวอย่างบางชนิดอาจไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้วัดอัตราการไหลของอากาศอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายในการทำงาน ปกติอุปกรณ์ควบคุมอัตราการไหลของอากาศที่ใช้กับเครื่อง Hi-Vol คือ electronic mass flowmeter หรือ orifice รวมทั้งอุปกรณ์ตรวจวัดความดันของอากาศ เช่น มาโนมิเตอร์เกจความดัน เป็นต้น
         การสอบเทียบอัตราการไหลของอากาศของเครื่อง Hi-Vol สามารถทำได้ในห้องปฏิบัติการที่มีอุปกรณ์สอบเทียบ เช่น Rootsmeter แต่ในทางปฏิบัติเครื่องมือเก็บตัวอย่างอากาศจะนำไปใช้นอกสถานที่ ทำให้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ทดสอบที่สามารถนำไปใช้ในพื้นที่ได้ สำหรับเครื่อง Hi-Vol มีอุปกรณ์ทดสอบที่เรียกว่า Reference Flow Device (ReF)
        โดยประกอบด้วยแผ่น orifice ที่มีจำนวนช่องต่างกัน เพื่อบังคับให้อากาศไหลผ่านได้มากหรือน้อย
ตามจำนวนช่องที่มีอยู่ การสอบเทียบมีขั้นตอนดังนี้
     1. ตรวจสอบเครื่องมือเก็บตัวอย่างและอุปกรณ์สอบเทียบ Ref โดยนำแผ่น orifice ที่มีจำนวนช่องต่างกันมาเตรียมใช้งาน บันทึกอุณหภูมิและความดันบรรยากาศ (T2, P2)
     2. เปิดฝาเครื่องเก็บตัวอย่างอากาศ นำอุปกรณ์ทดสอบติดตั้งเข้ากับแผ่นรองรับกระดาษกรองในเครื่องเก็บตัวอย่าง เลือกแผ่น orifice ที่มีจำนวนช่องเปิดมากที่สุดวางขวางด้านบนของปั๊มดูดอากาศ ขันเกลียวให้แน่น ต่อสายยางเข้ากับอุปกรณ์ปรับเทียบและมาโนมิเตอร์น้ำ และต่อสายยางระหว่างเครื่องวัดอัตราการไหลและมาโนมิเตอร์น้ำ ลักษณะของเครื่องมือ ก่อนทำการทดสอบอัตราการไหลควรตรวจรอยรั่วที่อาจเกิดขึ้นก่อนด้วยการปิดสายยางทั้งสองข้างและกันไม่ให้อากาศไหลผ่าน orifice เปิดปั๊มดูดอากาศและสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่มิเตอร์วัดอัตราการไหลของอากาศ ซึ่งไม่ควรเกิดการเปลี่ยนแปลงหากไม่มีการรั่วในระบบ (ตรวจสอบสายยางและข้อต่อหากพบว่ามีรอยรั่ว)
     3. ปรับศูนย์ของที่วัดระดับน้ำของมาโนมิเตอร์ เปิดปั๊มดูดอากาศให้เครื่องทำงานประมาณ 5 นาทีก่อนบันทึกระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลง (รวมความสูงของระดับน้ำทั้งสองด้าน, ΔH) และค่าที่อ่านได้จากอุปกรณ์ที่ใช้อ่านค่าอัตราการไหล (I) หรือ Transducer การอ่านค่าต้องใช้แผ่นกราฟบันทึก
     4. ปิดเครื่องก่อนทำซ้ำข้อ 2 และ 3 โดยเปลี่ยนแผ่น orifice ให้มีช่องเปิดลดลง เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำเมื่ออัตราการไหลของอากาศถูกจำกัด พยายามให้อัตราการไหลของอากาศที่สอบเทียบอยู่ในช่วง 1.1 – 1.7 ลบ..ต่อนาที
     5. นำค่าที่ได้ไปทำกราฟระหว่างระดับน้ำและอัตราการไหลของอากาศที่ได้
      6. คำนวณ [ΔH(P2/Pstd)(298/T2)]½ และบันทึกค่าที่คำนวณได้สำหรับแต่ละค่าของ ΔH
      7. คำนวณอัตราการดูดอากาศมาตรฐาน (Qstd) สำหรับทุกค่าของ[ΔH(P2/Pstd)(298/T2)]½  โดยใช้ค่าที่ได้จากกราฟของเครื่องมือสำหรับแผ่น orifice แต่ละแผ่น บันทึกค่าอัตราการไหลของอากาศที่คำนวณได้
     8. คำนวณ I[(P2/Pstd) (298/T2)]½ สำหรับแต่ละค่า I ที่อ่านได้จาก Transducer
     9. สร้างกราฟระหว่าง I[(P2/Pstd) (298/T2)]½ (แกน Y) และอัตราการไหลมาตรฐาน (Qstd)เป็นแกน X บนกระดาษกราฟ
ส่วนการเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองในบรรยากาศ
       เครื่องเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองมีรูปร่างของอุปกรณ์และใช้อัตราการดูดอากาศที่ดูดฝุ่นในบรรยากาศขนาดประมาณ 25 – 50 ไมครอน (ขนาดของฝุ่นที่ถูกดูดเข้ามาขึ้นกับความเร็วลมในพื้นที่ด้วย) กระดาษกรองที่ใช้มีประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมฝุ่นของ 0.3 ไมครอนได้อย่างน้อยร้อยละ 99 ซึ่งนิยมใช้กระดาษกรองชนิดใยแก้วขนาด 8 นิ้ว×10 นิ้ว การเก็บตัวอย่างควรดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
     1. ตรวจสอบกระดาษกรองก่อนนำมาใช้ ห้ามนำมาใช้หากชำรุด และทำเครื่องหมายบนกระดาษกรองด้วยตรายาง (เช่น วันที่ หรือ เลขหมาย) นำกระดาษกรองไปใส่ในตู้ควบคุมความชื้นภายในห้องชั่ง ควรรอไม่น้อยกว่า 24 ชม. ก่อนทำการชั่งน้ำหนักด้วยเครื่องชั่ง การชั่งน้ำหนักให้ทำซ้ำ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ซึ่งไม่ควรเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งเกินกว่า 0.5 มก. ใช้ค่าเฉลี่ยของกระดาษกรองที่ชั่งได้บันทึกน้ำหนักของกระดาษกรองเปล่า
     2. เมื่อต้องการเก็บตัวอย่าง ให้เปิดฝาเครื่องเก็บตัวอย่าง (รูปที่ 1) สังเกตแผ่นตะแกรงสี่เหลี่ยมพร้อมเหล็กสีดำเป็นกรอบโดยรอบ หมุนเกลียวที่มุมทั้งสี่เพื่อยกกรอบสี่เหลี่ยมออก นำกระดาษกรองวางบนตะแกรงอย่างระวัง ครอบกรอบสี่เหลี่ยมบนกระดาษกรองและขันเกลียวทั้งสี่มุมให้แน่น ปิดฝาเครื่องเก็บตัวอย่าง
     3. เปิดเครื่องอย่างน้อย 5 นาที่ให้เครื่องทำงานได้ตามอุณหภูมิของปั๊มดูดอากาศ บันทึกอัตราการไหลของอากาศ อุณหภูมิ ความดันบรรยากาศ หากอัตราการไหลของอากาศไม่อยู่ในช่วง 1.1 ถึง 1.7 ลบ..ต่อนาที ให้แก้ไขเครื่องเก็บตัวอย่าง (อาจปรับอัตราการไหล ดูคู่มือ)
     4. ตั้งเวลาเก็บตัวอย่าง (ปกติ 24 ชั่วโมงระหว่างเที่ยงคืนเที่ยงคืน) ตามกำหนดที่ต้องการ
     5. เมื่อสิ้นสุดการเก็บตัวอย่างให้สังเกตว่าเครื่องเก็บตัวอย่างทำงานครบตามเวลาหรือไม่หรือมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ ก่อนเปิดฝาเครื่องและคลายเกลียวเพื่อเก็บกระดาษกรองที่ผ่านการใช้งานแล้วอย่างระมัดระวัง โดยให้จับที่ขอบเท่านั้น ต้องระวังลมพัดกระดาษกรอง เมื่อได้กระดาษกรองให้พับตามแนวยาวและใส่ในซองกระดาษมะลิลาที่เตรียมไว้ บันทึกเวลาของการเก็บตัวอย่าง และอัตราการดูดอากาศ
     6. นำกระดาษกรองไปปรับสภาพในตู้ควบคุมความชื้นอย่างน้อย 24 ชม. ก่อนนำมาชั่งน้ำหนัก บันทึกน้ำหนักที่ได้
     7. คำนวณน้ำหนักของฝุ่นละอองในบรรยากาศที่เก็บตัวอย่างได้ และนำค่าของอัตราการไหลของอากาศที่เก็บได้ในช่วงเวลาทั้งหมดมาหารเพื่อให้ได้เป็นหน่วย มก.ต่อลบ.. และเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ
           หลังจากที่เรารู้จักหลักการของเครื่องแล้ว การทำโปรเจคครั้งนี้เรา จะต้องนึกเสมอว่าต้อง ถูกต้อง แม่นยำ ได้มาตรฐาน ปลอดภัย ใช้งานได้จริง ซึ่งผมขออนุญาตนำข้อมูลของโปรเจคที่ดี และมีประโยชน์มากๆ  มาเก็บไว้ในบทความของผมในฐานะวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมก็แล้วกันนะครับ
เริ่มจาก การเตรียมวัสดุอุปกรณ์เก่าที่เรามี และหาใหม่ที่เราขาด
     1.  วัสดุอุปกรณ์เก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่
1.1         โครงสร้างของเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP
1.2         Filter holder    
      2. Spare part ที่สามารถใช้นำมางานได้
2.1         ชุดควบคุมเครื่องวัด
2.2          Housing Motor with motor flang
2.3  Motor , Support
      3. วัสดุอุปกรณ์ที่จัดซื้อใหม่
3.1         Flow Recorder
3.2         สายไฟ Main พร้อมปลั๊กแบบสามขา
3.3         น็อตขนาดต่างๆ สำหรับล็อคตัวเครื่องและชุดควบคุม
3.4         สีสเปรย์
สำหรับขั้นตอนและวิธีการดำเนินงานขอเป็นแบบย่อๆ เข้าใจง่ายๆเลยแล้วกันนะครับ
-                    ตรวจสอบโครงสร้างเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP  และทำความสะอาดตัวเครื่อง
-                    ปรับปรุง  ซ่อมแซมโครงสร้างในส่วนที่ชำรุด โดยการจัดหาชิ้นส่วนของโครงสร้างเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP  มาใส่เพิ่มเติมให้มีสภาพที่มั่นคง
-       ตรวจสอบอุปกรณ์ และประกอบเพื่อรอใช้งาน
        :  ชุด High  volume  motor
                       : ชุด Timer
                       : ชุด Flow Recorder
                       : ชุด Filter holder
-                    นำชุดอุปกรณ์ที่ประกอบไว้ ทดลองใส่ในโครงสร้างเพื่อจัดทำจุดล็อคของอุปกรณ์กับตัวโครงสร้าง 
5ทำสีตัวเครื่องใหม่ และ ประกอบชุดอุปกรณ์เข้ากับตัวเครื่อง
-                    ตรวจสอบระบบไฟฟ้า สายกราว์ และทำการทดสอบอัตราการไหลของเครื่องเก็บตัวอย่างอากาศ ให้ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลักวิชาการ
-                    ทดสอบเดินเครื่อง พร้อมกับเปรียบเทียบกับเครื่องที่ทำงานในปกติ
ซึ่งใน โปรเจคนี้ก็ผ่านตามมาตรฐาน ทุกอย่างครับ
ซึ่งแน่นอนครับ ผลที่ได้คือ
-    เพิ่มทักษะ ความรู้ความสามรถ ความสามัคคี ให้กับพนักงาน
-     ช่วยบริษัทประหยัดงบประมาณในการซื้อเครื่องใหม่ ประหยัดได้หลักแสน บาทเลยทีเดียว
-     ช่วยโลก มีเครื่องตรวจวัดฝุ่นเพิ่มขึ้นอีก และลดขยะจากที่จะทิ้งก็นำมาทำใหม่
-    ฯลฯ อีกมากมาย
          สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอขอบคุณบริษัทอีกครั้งครับ ถึงแม้การทำโปรเจคนี้ เราเป็นผู้ทำให้ประหยัดงบให้บริษัท แต่ก็ทำให้เรารู้ครับว่า ทั้งหัวหน้าทุกระดับ แล้วก็บริษัทที่ผมอยู่ปัจจุบันนี้ มีความรัก และเอาใจใส่ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังด้วยครับ ขอบคุณที่ทำให้วัยรุ่นที่มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างผมได้รู้สึกดีใจ ภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ครับ โอกาสหน้าดีดี จะมีเขียนบทความ เกี่ยวกับ GI5 ( Geen Industry ) ระดับสูงสุด ระดับที่ 5 นั่นเอง ซึงผมก็พอรู้ว่าคืออะไร ที่บริษัทได้รางวัลมา แต่รายละเอียด หลักการที่แท้จริงผมยังไม่แม่นพอ เอาไว้โอกาสหน้านะครับ
ขอบคุณครับ










วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กิจกรรมวัยรุ่นที่ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี


บทความนี้ผมจะขอกล่าวถึงการศึกษาดูงานที่ทรงคุณค่ายิ่งของการเป็นวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมเลยทีเดียว คือการได้ไปดูงานที่ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
      The King’s Royally Initiated Laem Phak Bia Environmental Research and Development
       Project Laem Phak Bia Sub-distric, Ban Laem Distric, Petchaburi Province

เป็นโครงการเพื่อแก้ปัญหามลภาวะต่างๆตั้งแต่ ขยะ ไปจนถึงเป็นการแก้สภาพนน้ำเน่าเสียด้วยกลไกจากธรรมชาติ  ตามพระราชดำริแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งจากการศึกษาเราได้เน้นไปที่ ระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมี 4 ระบบบำบัดน้ำเสียให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ
          ขออนุญาตนำเนื้อหาที่ได้จาก พี่ๆวิทยากรในโครงการฯ ซึ่งได้อธิบายว่า  ที่มีโครงการแห่งนี้เพราะสมัยก่อนที่นี่จะพบกับปัญหาน้ำเสียถึงขนาดใช้น้ำไม่ได้เลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ทรงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการแห่งนี้ขึ้นเพื่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีด้วยกันถึง 4 ระบบ คือ...
          ระบบแรก คือ บ่อบำบัดน้ำเสีย เวลาที่มีน้ำเสียไหลมาแต่ละบ่อก็จะไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำด้านบน และเชื่อมต่อกันทางตอนล่างของบ่อถัดไปเป็นลำดับก่อนที่จะนำคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
          ระบบที่สอง คือ ระบบพืชและหญ้ากรองน้ำเสีย ซึ่งให้พืชช่วยบำบัดนำเสียโดยการให้น้ำเสียไหลผ่านแปลงหญ้าและหญ้าที่ดีที่สุดก็คือ หญ้าธูปฤาษี ที่ช่วยปล่อยออกซิเจนจากรากลงไปเติมน้ำให้กลายเป็นน้ำดีได้ และเมื่อครบ 90 วัน ก็จะตัดพืชออก พอตัดแล้วก็นำไปให้กลุ่มแม่บ้านทำเครื่องสานเพื่อเพิ่มประโยชน์และสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านได้
          ระบบที่สาม คือ ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม กลไกก็จะคล้ายกับระบบพืชและหญ้ากรอง แต่จะแตกต่างกันด้วยวิธีการ
          ระบบที่สี่ คือ ระบบแปลงพืชป่าชายเลน โดยการให้ธรรมชาติบำบัดด้วยตัวของมันเองตามระยะเวลาการขึ้นลงของน้ำทะเลในแต่ละวัน อาศัยระบบรากของพืชป่าชายเลนช่วยปล่อยก๊าซออกซิเจนเติมให้กับน้ำเสียและจุลินทรีย์ในดินและชาวบ้านจะไม่เข้ามายุ่ง เพราะเป็นพื้นที่ของงานวิจัยและเมื่อมีโครงการฯ เข้ามาชาวบ้านก็จะเริ่มอนุรักษ์โดยการไม่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ หรือว่าถ้าเขาจะปล่อยก็จะใช้ผ่านถังดักไขมัน หากบ้านไหนยังไม่มี ชาวบ้านจะมารับถังดักไขมันที่โครงการฯ ได้

        การศึกษาดูงานที่ทรงคุณค่ายิ่งของผมนั้น  นอกจะได้ศึกษาเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียตามแนวพระราชดำริ
แล้วยังได้ทำกิจกรรมต่างๆอีกมากมาย อาจเป็นเพราะท่านอาจารย์ ที่พาพวกผมไปนั้นท่านเป็นนักวิจัยอยู่ที่นั้นด้วย ท่านเลยให้พวกผม ไปเป็น ผู้ช่วยนักวิจัยที่นั้น กิจกรรมมันส์ๆ ลุยๆ สนุกสนานแบบที่วัยรุ่นเขาชอบทำกัน แต่เป็นกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความรู้ ประสบการณ์ ถ้าจำไม่ผิดพวกผมใช้ชีวิตอยู่ที่นั้น เป็นสัปดาห์ แต่รวมๆ ที่เป็นผู้ช่วยนักวิจัยนั้น ใช้เวลาเป็นปี เลยทีเดียว การวิจัยและกิจกรรมที่ได้ทำในบริเวณโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยก็ เช่น 1.การศึกษาจำนวนพวกปู พวกสัตว์ ที่อยู่กับป่าชายเลย ก็เป็นการสุ่มตัวอย่างว่าพื้นที่เท่านี้มีเท่าไหร่ เช่นเดียวกับการนับต้นโกงกาง ต้นไม้ในป่าชายเลน ว่า มีกี่ต้น ต้นเล็ก ต้นใหญ่ ต้นอะไรบ้าง ในพื้นที่ที่สุมตัวอย่าง 2.การเป็นส่วนหนึ่งของระบบบำบัดน้ำเสีย นั้นคือ การปลูกต้นธูปฤาษี กกกลมในบ่อบำบัดน้ำเสีย นอกจากปลูกแล้ว ยังมีการตัด เพราะเครื่องจักรทุกตัวย่อมมีอายุการใช้งาน แต่ต้นธูปฤาษี กกกลม ไม่ได้ตัดทิ้ง ตั้ดออกมาใช้ประโยชน์ต่อโดยชาวบ้านเขาเอาไปทำผลิตภัณฑ์ ของใช้ ของประดับ ต่างๆนานา เช่น เสื่อ  ผมยังเคยคิดว่า ในอนาคตวันหนึ่งข้างหน้า ถ้าผมมีโอกาส ได้ช่วยสังคมพัฒนาชุมชุนในด้านการบำบัดน้ำเสียในชุมชน ผมจะน้อมนำแนวพระราชดำริฯ ไปใช้ประโยชน์ 
และผมคิดว่า ผมจะไปศึกษา ไปเยี่ยม ไปเที่ยว ที่โครงการฯโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอีกถ้ามีโอกาส เพราะตลอดเวลาที่ได้ไปทำกิจกรรมที่นั้น ก็ได้เที่ยวชม จังหวัดเพชรบุรี
พอสมควร ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวแบบวัยรุ่นๆ วัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น การเดินลงไปเก็บหอยเอง ที่แหลมผักเบี้ยนั่นแหล่ะซึ่งน้ำจะลงปีละครั้ง (อันนี้ผมจำเดือนไม่ได้ )ที่ให้เราได้เดินลงไปได้
การที่ได้ไปดูเขาแข่งเรือบอกเลยครั้งแรกในชีวิต พากษ์มันส์มาก
การที่ได้ไปไหว้พระที่วัดต่างๆ อย่าลืมดูแลของ ทรัพย์สิน เราดีดีด้วย ลิงมันดื้อมาก ขโมยขนมกับมือเพื่อนผมเลย มีอีกเยอะๆครับ เมืองเพชร แต่สุดท้ายเมื่อจะจากเมืองเพชร ก็อย่าลืม ขนมหม้อแกง เจ้าเดิม เกือบทุกร้าน แต่มีร้านหนึ่งที่ คนเมืองเพชรเขารู้กัน ว่าเป็นเจ้าดั้งเดิมจริงๆ ผมไปอุดหนุนมาแล้ว อยากรู้ต้องถามคนเมืองเพชรนะครับ ร้านไหน แต่ผมว่า อร่อยเกือบทุกร้านแหล่ะครับ เพราะเป็นของดี จังหวัดเพชรบุรี
               สุดท้ายของบทความนี้ ในฐานะวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม ผมอยากจะบอกว่า ผมภูมิใจมากที่มีพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาและความห่วงใย
ทรงเล็งเห็นถึงปัญหาต่างๆของประชาชน เอาง่ายๆเรื่องน้ำ พระองค์ท่าน พระราชทานโครงการตั้งแต่ไม่มีน้ำ ก็มีโครงการฝนหลวง มีน้ำมากก็มีโครงการเขื่อนต่างๆเก็บกักน้ำ โครงการใช้ประโยชน์จากน้ำต่างๆ สุดท้ายของน้ำ น้ำเสีย พระองค์ท่านยังมีโครงการบำบัดน้ำเสีย ที่มีประโยชน์มาก นี่ก็เป็นหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ผมรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำให้ผมอยากดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดี ไว้ให้คนรุ่นหลังได้มีสิ่งแวดล้อมดีดีในประเทศไทย อย่างที่พระองค์ท่านได้ทำให้ประเทศไทย แสนเท่า ล้านเท่า หาที่สุดไม่ได้เมื่อเทียบกับเราทำเพื่อส่วนรวมทำเพื่อประเทศ ทรงพระเจริญ

 














วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บทความแรกของ วัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม

                   บทความแรกผมอยากจะบอกประวัติ บอกที่มาที่ไปของสาเหตุที่ผมทำ Blog นี้ขึ้นมา ก็เพื่ออยากจะแชร์เรื่องราวประสบการณ์ อาจจะมีความรู้บ้าง  อีกแง่หนึ่งของชีวิตวัยรุ่นในแบบของผม ที่ผมเรียกตัวเองว่า วัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม  แน่นอนครับ การเป็นวัยรุ่นนี้มันเหนื่อยจริงๆ  โดยเฉพาะ วัยรุ่นตั้งตัว นี่เหนื่อยโคตรๆ นอกจากจิตใจที่ยังชอบความมันส์ ฮา ชอบท่องเที่ยว ชอบรื่นเริงสังสรรค์ ตามประสาวัยรุ่น แต่ยังต้องทำมาหากิน เพื่อความอยู่รอด ความไม่เป็นภาระของครอบครัว และเพื่อการสร้างครอบครัวใหม่ของตัวเอง จึงอยากจะบอกเหลือเกินว่า เป็นวัยรุ่นตั้งตัว นี้มันเหนื่อยจริงๆ
           แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ วัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม  มันก็อาจจะเป็นนิยามของผมเองนะครับ ที่ตั้งขึ้นมาให้เหมาะกับเรื่องราวของตัวเอง เพราะทุกวันนี้ผมก็ทำมาหากินอยู่กับเรื่อง สิ่งแวดล้อม จนจะคิดอะไร ทำอะไร มันก็จะมี คำว่าสิ่งแวดล้อมนี้อยู่ในหัวสมองของผมเสมอมา อาจจะเป็นเพราะผมเรียนจบด้านสิ่งแวดล้อมมาครับ

         ผมจบ ป. ตรี  วท.. สิ่งแวดล้อม ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อาจจะไม่โด่งดังมากนัก แต่ขอบอกไว้เลยว่า ที่ผมเรียนจบมาผมก็มีครูบา อาจารย์ ที่สอนผมมาอย่างดีเหมือนกัน รุ่นพี่รุ่นน้องที่จบสาขาเดียวกับผมต่างก็มีงานการทำกันทุกคน ก็คงเหมือนๆกันกับ
มหาวิทยาลัยอื่นๆ หล่ะครับ


          ตอนผมเรียนจบผมก็ได้งานทำเลย ก็เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอีกแหล่ะครับเป็นบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียงด้านการฝังกลบกากอุตสาหกรรม ที่แรกผมก็ทำงานมาสองปีกว่าๆ แล้วก็เปลี่ยนงาน อาจจะด้วยเพราะต้องการหาประสบการณ์เพิ่ม หรือ เพราะต้องการหาความก้าวหน้าให้กับตัวเอง แต่จะเพราะอะไร งานที่ผมทำปัจจุบันก็ยังหนีไม่พ้นงานด้านสิ่งแวดล้อม น้ำ อากาศ กากฯ แสง เสียง ความร้อน เหมือนเดิมครับ
     
             และตลอดระยะเวลาการทำงานด้วยความที่เป็นวัยรุ่น ผมก็ไม่เคยที่จะหยุดการ หาความสนุกสนาน หาความเพลิดเพลินเจริญจิตใจให้กับชีวิต ตลอดเวลา ไปเที่ยวโน่น เที่ยวนี่ กับเพื่อนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ จนได้ตั้งเป้าหมายในกลุ่มเพื่อนที่สนิทและไปด้วยกันบ่อยๆแล้วว่าเราจะไป ทริปใหญ่ๆ อย่างน้อยปีละครั้ง หนีไม่พ้นสิ่งแวดล้อมหรอกครับ ทะเล ภูเขา น้ำตก กางเต้นนอน หุงหาอาหารกินเอง  และทริปเล็กๆ รวมตัวได้เมื่อไหร่ เราลุยทันที ลุยที่ว่าอาจจะแค่หาอาหารกินครับ                                                                                 นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผมอยากจะทำ Blog ของผมขึ้นมา เผื่อมีความรู้ดีดีจากการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในโรงงาน  เรื่องราวประสบการณ์ต่างๆจากการท่องเที่ยว จะได้แชร์ไว้ใน Blog ของตัวเอง                                                                                        (ขอขอบคุณเพื่อน อนุพล นามโพธิ์ ที่ให้คำปรึกษาการทำ Blog ครั้งนี้ครับ) 12-08-2014