Recovery TSP. High volume air sampler
บทความนี้ผมจะขอกล่าวถึงการทำงาน
งานที่เรียกว่า Project ซึ่งมันก็เป็น โปรเจคแรก
ของการทำงานที่ใหม่ ซึ่งมันก็เป็นโปคเจคที่ภาคภูมิใจของการเป็นวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมเลย
ที่ได้ทำโปรเจคร่วมกับพี่ๆเพื่อนๆที่ทำงานในแผนก ได้ร่วมมือกัน
ได้ใช้ความรู้ความสามารถ และที่สำคัญโปรเจคนี้ได้ประหยัดงบให้กับบริษัทได้อีกด้วย
การเป็นวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมในแบบของผม ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจวัดสิ่งแวดล้อมให้กับบริษัท แต่เพื่อประโยชน์ของชุมชน แน่นอนครับเราทำงานด้านไหนเราต้องรักสิ่งๆนั้น ผมทำงานด้านสิ่งแวดล้อมผมก็ต้องรักสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ การทำ โปรเจคนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณบริษัท ขอบคุณหัวหน้าทุกระดับ ขอบคุณพี่ๆ ที่ช่วยกันคิดโปรเจคนี้ขึ้นมาช่วยกันทำจนสำเร็จ Project : Recovery TSP. High volume air sampler หรือการซ่อมแซมปรับปรุงเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP ที่ยกเลิกการใช้งานให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้ นั่นเอง ถ้าเป็นคนที่พอจะรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ก็จะรู้ดีครับว่า TSP คืออะไร PM-10 คืออะไร PM-2.5 คืออะไร สำคัญยังไง แต่ถ้ามีเวลาผมก็จะนำข้อมูลความรู้มาใส่บทความของผมแน่นอน แต่บทความนี้ขอเป็นเรื่อง ของ TSP นะครับ
การเป็นวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมในแบบของผม ที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจวัดสิ่งแวดล้อมให้กับบริษัท แต่เพื่อประโยชน์ของชุมชน แน่นอนครับเราทำงานด้านไหนเราต้องรักสิ่งๆนั้น ผมทำงานด้านสิ่งแวดล้อมผมก็ต้องรักสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ การทำ โปรเจคนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณบริษัท ขอบคุณหัวหน้าทุกระดับ ขอบคุณพี่ๆ ที่ช่วยกันคิดโปรเจคนี้ขึ้นมาช่วยกันทำจนสำเร็จ Project : Recovery TSP. High volume air sampler หรือการซ่อมแซมปรับปรุงเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP ที่ยกเลิกการใช้งานให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้ นั่นเอง ถ้าเป็นคนที่พอจะรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ก็จะรู้ดีครับว่า TSP คืออะไร PM-10 คืออะไร PM-2.5 คืออะไร สำคัญยังไง แต่ถ้ามีเวลาผมก็จะนำข้อมูลความรู้มาใส่บทความของผมแน่นอน แต่บทความนี้ขอเป็นเรื่อง ของ TSP นะครับ
เริ่มจากหลักการเบื้องต้นของ
TSP. High volume air sampler
การใช้เครื่องเก็บตัวอย่างชนิดอัตราการดูดอากาศสูงหรือ Hi-Vol เป็นวิธีเก็บตัวอย่างฝุ่นตามที่ระบุในกฎหมาย ฝุ่นในบรรยากาศจะถูกดูดเข้าสู่เครื่องเก็บตัวอย่างด้วยอัตราการดูดตามที่ออกแบบไว้ อากาศจะถูกบังคับให้เคลื่อนที่ผ่านทางเข้า (inlet) เข้าสู่เครื่องและถูกดักด้วยกระดาษกรองที่อยู่ภายใน ก่อนการเก็บตัวอย่าง กระดาษกรองจะต้องผ่านการชั่งน้ำหนักล่วงหน้าและนำไปชั่งอีกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นการเก็บตัวอย่างด้วยเครื่องชั่งในห้องปฏิบัติการ ปกติระยะเวลาเก็บตัวอย่างฝุ่นในบรรยากาศกำหนดไว้ 24 ชั่วโมงเพื่อใช้เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานได้ ข้อกำหนดของเครื่องมือเก็บตัวอย่างอากาศต้องพิจารณาเอกสารหรือคู่มือการใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม วิธีทั่วไปในการใช้เครื่องมือถูกกำหนดเป็นมาตรฐานจากหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
ข้อแนะนำทั่วไปของการเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองด้วยเครื่อง Hi-vol มีดังนี้
- ปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศที่ถูกดูดเข้าเครื่องหากมีมากจะสะสมบนกระดาษกรอง มีผลต่ออัตราการดูดอากาศ (กำหนดให้ต่ำสุดประมาณ 1.1 ลบ.ม.ต่อนาที)ในขณะที่อัตราการดูดอากาศสูงสุดก่อนเก็บตัวอย่างไม่ควรเกิน 1.7 ลบ.ม.ต่อนาท
- การระบายอากาศจากเครื่องเก็บตัวอย่างควรถูกปล่อยออกห่างจากทางเข้าของอากาศอย่างน้อย 40 ซม. และควรระวังการเป่าฝุ่นบนพื้นเข้าสู่เครื่องเก็บตัวอย่าง
- อุปกรณ์ควบคุมเวลาครอบคลุม 24±1 ชม. และมีความแม่นยำในการตั้งเวลาในช่วง±30 นาที
- การชั่งกระดาษกรองควรควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 15 – 30°C และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิไม่ควรเกิน ±30°C ระหว่างการปรับสภาพกระดาษกรอง ร้อยละของความชื้นสัมพัทธ์ควรน้อยกว่า 50 และเปลี่ยนแปลงไม่เกินร้อยละ ±5
- เครื่องชั่งน้ำหนักมีความสามารถวัดได้ละเอียด 0.1 มก. พื้นที่วางกระดาษกรองของเครื่องชั่งควรมีขนาดรองรับกระดาษกรอง 8 นิ้ว × 10 นิ้ว
การใช้เครื่องเก็บตัวอย่างชนิดอัตราการดูดอากาศสูงหรือ Hi-Vol เป็นวิธีเก็บตัวอย่างฝุ่นตามที่ระบุในกฎหมาย ฝุ่นในบรรยากาศจะถูกดูดเข้าสู่เครื่องเก็บตัวอย่างด้วยอัตราการดูดตามที่ออกแบบไว้ อากาศจะถูกบังคับให้เคลื่อนที่ผ่านทางเข้า (inlet) เข้าสู่เครื่องและถูกดักด้วยกระดาษกรองที่อยู่ภายใน ก่อนการเก็บตัวอย่าง กระดาษกรองจะต้องผ่านการชั่งน้ำหนักล่วงหน้าและนำไปชั่งอีกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นการเก็บตัวอย่างด้วยเครื่องชั่งในห้องปฏิบัติการ ปกติระยะเวลาเก็บตัวอย่างฝุ่นในบรรยากาศกำหนดไว้ 24 ชั่วโมงเพื่อใช้เปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานได้ ข้อกำหนดของเครื่องมือเก็บตัวอย่างอากาศต้องพิจารณาเอกสารหรือคู่มือการใช้งานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม วิธีทั่วไปในการใช้เครื่องมือถูกกำหนดเป็นมาตรฐานจากหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
ข้อแนะนำทั่วไปของการเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองด้วยเครื่อง Hi-vol มีดังนี้
- ปริมาณฝุ่นละอองในบรรยากาศที่ถูกดูดเข้าเครื่องหากมีมากจะสะสมบนกระดาษกรอง มีผลต่ออัตราการดูดอากาศ (กำหนดให้ต่ำสุดประมาณ 1.1 ลบ.ม.ต่อนาที)ในขณะที่อัตราการดูดอากาศสูงสุดก่อนเก็บตัวอย่างไม่ควรเกิน 1.7 ลบ.ม.ต่อนาท
- การระบายอากาศจากเครื่องเก็บตัวอย่างควรถูกปล่อยออกห่างจากทางเข้าของอากาศอย่างน้อย 40 ซม. และควรระวังการเป่าฝุ่นบนพื้นเข้าสู่เครื่องเก็บตัวอย่าง
- อุปกรณ์ควบคุมเวลาครอบคลุม 24±1 ชม. และมีความแม่นยำในการตั้งเวลาในช่วง±30 นาที
- การชั่งกระดาษกรองควรควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 15 – 30°C และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิไม่ควรเกิน ±30°C ระหว่างการปรับสภาพกระดาษกรอง ร้อยละของความชื้นสัมพัทธ์ควรน้อยกว่า 50 และเปลี่ยนแปลงไม่เกินร้อยละ ±5
- เครื่องชั่งน้ำหนักมีความสามารถวัดได้ละเอียด 0.1 มก. พื้นที่วางกระดาษกรองของเครื่องชั่งควรมีขนาดรองรับกระดาษกรอง 8 นิ้ว × 10 นิ้ว
สำหรับการทดสอบอัตราการไหลของเครื่องเก็บตัวอย่างอากาศ
การใช้เครื่องเก็บตัวอย่างชนิดอัตราการดูดอากาศสูงหรือ Hi-Vol จำเป็นต้องคำนึงถึงอัตราการดูดอากาศที่กำหนดให้เครื่องทำงาน
นอกจากนี้ เครื่องมือเก็บตัวอย่างบางชนิดอาจไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้วัดอัตราการไหลของอากาศอย่างต่อเนื่อง
ทำให้อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายในการทำงาน ปกติอุปกรณ์ควบคุมอัตราการไหลของอากาศที่ใช้กับเครื่อง
Hi-Vol คือ electronic mass flowmeter หรือ
orifice รวมทั้งอุปกรณ์ตรวจวัดความดันของอากาศ เช่น มาโนมิเตอร์เกจความดัน
เป็นต้น
การสอบเทียบอัตราการไหลของอากาศของเครื่อง
Hi-Vol สามารถทำได้ในห้องปฏิบัติการที่มีอุปกรณ์สอบเทียบ เช่น
Rootsmeter แต่ในทางปฏิบัติเครื่องมือเก็บตัวอย่างอากาศจะนำไปใช้นอกสถานที่
ทำให้จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ทดสอบที่สามารถนำไปใช้ในพื้นที่ได้ สำหรับเครื่อง
Hi-Vol มีอุปกรณ์ทดสอบที่เรียกว่า Reference Flow Device
(ReF)
โดยประกอบด้วยแผ่น orifice ที่มีจำนวนช่องต่างกัน เพื่อบังคับให้อากาศไหลผ่านได้มากหรือน้อย
ตามจำนวนช่องที่มีอยู่ การสอบเทียบมีขั้นตอนดังนี้

2. เปิดฝาเครื่องเก็บตัวอย่างอากาศ
นำอุปกรณ์ทดสอบติดตั้งเข้ากับแผ่นรองรับกระดาษกรองในเครื่องเก็บตัวอย่าง เลือกแผ่น
orifice ที่มีจำนวนช่องเปิดมากที่สุดวางขวางด้านบนของปั๊มดูดอากาศ ขันเกลียวให้แน่น
ต่อสายยางเข้ากับอุปกรณ์ปรับเทียบและมาโนมิเตอร์น้ำ และต่อสายยางระหว่างเครื่องวัดอัตราการไหลและมาโนมิเตอร์น้ำ
ลักษณะของเครื่องมือ ก่อนทำการทดสอบอัตราการไหลควรตรวจรอยรั่วที่อาจเกิดขึ้นก่อนด้วยการปิดสายยางทั้งสองข้างและกันไม่ให้อากาศไหลผ่าน
orifice เปิดปั๊มดูดอากาศและสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่มิเตอร์วัดอัตราการไหลของอากาศ
ซึ่งไม่ควรเกิดการเปลี่ยนแปลงหากไม่มีการรั่วในระบบ (ตรวจสอบสายยางและข้อต่อหากพบว่ามีรอยรั่ว)
3. ปรับศูนย์ของที่วัดระดับน้ำของมาโนมิเตอร์
เปิดปั๊มดูดอากาศให้เครื่องทำงานประมาณ 5 นาทีก่อนบันทึกระดับน้ำที่เปลี่ยนแปลง
(รวมความสูงของระดับน้ำทั้งสองด้าน, ΔH) และค่าที่อ่านได้จากอุปกรณ์ที่ใช้อ่านค่าอัตราการไหล
(I) หรือ Transducer การอ่านค่าต้องใช้แผ่นกราฟบันทึก
4. ปิดเครื่องก่อนทำซ้ำข้อ
2 และ 3 โดยเปลี่ยนแผ่น orifice ให้มีช่องเปิดลดลง เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำเมื่ออัตราการไหลของอากาศถูกจำกัด
พยายามให้อัตราการไหลของอากาศที่สอบเทียบอยู่ในช่วง 1.1 – 1.7 ลบ.ม.ต่อนาที
5.
นำค่าที่ได้ไปทำกราฟระหว่างระดับน้ำและอัตราการไหลของอากาศที่ได้
6. คำนวณ
[ΔH(P2/Pstd)(298/T2)]½ และบันทึกค่าที่คำนวณได้สำหรับแต่ละค่าของ
ΔH
7. คำนวณอัตราการดูดอากาศมาตรฐาน
(Qstd) สำหรับทุกค่าของ[ΔH(P2/Pstd)(298/T2)]½ โดยใช้ค่าที่ได้จากกราฟของเครื่องมือสำหรับแผ่น orifice แต่ละแผ่น บันทึกค่าอัตราการไหลของอากาศที่คำนวณได้
8. คำนวณ
I[(P2/Pstd) (298/T2)]½ สำหรับแต่ละค่า I ที่อ่านได้จาก
Transducer
9. สร้างกราฟระหว่าง
I[(P2/Pstd) (298/T2)]½ (แกน Y) และอัตราการไหลมาตรฐาน
(Qstd)เป็นแกน X บนกระดาษกราฟ
ส่วนการเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองในบรรยากาศ
เครื่องเก็บตัวอย่างฝุ่นละอองมีรูปร่างของอุปกรณ์และใช้อัตราการดูดอากาศที่ดูดฝุ่นในบรรยากาศขนาดประมาณ 25 – 50 ไมครอน (ขนาดของฝุ่นที่ถูกดูดเข้ามาขึ้นกับความเร็วลมในพื้นที่ด้วย)
กระดาษกรองที่ใช้มีประสิทธิภาพในการเก็บรวบรวมฝุ่นของ 0.3 ไมครอนได้อย่างน้อยร้อยละ 99 ซึ่งนิยมใช้กระดาษกรองชนิดใยแก้วขนาด
8 นิ้ว×10 นิ้ว การเก็บตัวอย่างควรดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้
1. ตรวจสอบกระดาษกรองก่อนนำมาใช้
ห้ามนำมาใช้หากชำรุด และทำเครื่องหมายบนกระดาษกรองด้วยตรายาง (เช่น วันที่ หรือ เลขหมาย) นำกระดาษกรองไปใส่ในตู้ควบคุมความชื้นภายในห้องชั่ง
ควรรอไม่น้อยกว่า 24 ชม. ก่อนทำการชั่งน้ำหนักด้วยเครื่องชั่ง
การชั่งน้ำหนักให้ทำซ้ำ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก ซึ่งไม่ควรเปลี่ยนแปลงในแต่ละครั้งเกินกว่า
0.5 มก. ใช้ค่าเฉลี่ยของกระดาษกรองที่ชั่งได้บันทึกน้ำหนักของกระดาษกรองเปล่า
2. เมื่อต้องการเก็บตัวอย่าง ให้เปิดฝาเครื่องเก็บตัวอย่าง
(รูปที่ 1) สังเกตแผ่นตะแกรงสี่เหลี่ยมพร้อมเหล็กสีดำเป็นกรอบโดยรอบ
หมุนเกลียวที่มุมทั้งสี่เพื่อยกกรอบสี่เหลี่ยมออก นำกระดาษกรองวางบนตะแกรงอย่างระวัง
ครอบกรอบสี่เหลี่ยมบนกระดาษกรองและขันเกลียวทั้งสี่มุมให้แน่น ปิดฝาเครื่องเก็บตัวอย่าง
3. เปิดเครื่องอย่างน้อย
5 นาที่ให้เครื่องทำงานได้ตามอุณหภูมิของปั๊มดูดอากาศ บันทึกอัตราการไหลของอากาศ
อุณหภูมิ ความดันบรรยากาศ หากอัตราการไหลของอากาศไม่อยู่ในช่วง 1.1 ถึง 1.7 ลบ.ม.ต่อนาที ให้แก้ไขเครื่องเก็บตัวอย่าง (อาจปรับอัตราการไหล
ดูคู่มือ)
4. ตั้งเวลาเก็บตัวอย่าง
(ปกติ 24 ชั่วโมงระหว่างเที่ยงคืน – เที่ยงคืน) ตามกำหนดที่ต้องการ

6. นำกระดาษกรองไปปรับสภาพในตู้ควบคุมความชื้นอย่างน้อย
24 ชม. ก่อนนำมาชั่งน้ำหนัก บันทึกน้ำหนักที่ได้
7. คำนวณน้ำหนักของฝุ่นละอองในบรรยากาศที่เก็บตัวอย่างได้
และนำค่าของอัตราการไหลของอากาศที่เก็บได้ในช่วงเวลาทั้งหมดมาหารเพื่อให้ได้เป็นหน่วย
มก.ต่อลบ.ม.
และเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ
หลังจากที่เรารู้จักหลักการของเครื่องแล้ว
การทำโปรเจคครั้งนี้เรา จะต้องนึกเสมอว่าต้อง ถูกต้อง แม่นยำ ได้มาตรฐาน ปลอดภัย
ใช้งานได้จริง ซึ่งผมขออนุญาตนำข้อมูลของโปรเจคที่ดี และมีประโยชน์มากๆ
มาเก็บไว้ในบทความของผมในฐานะวัยรุ่นรักษ์สิ่งแวดล้อมก็แล้วกันนะครับ
เริ่มจาก การเตรียมวัสดุอุปกรณ์เก่าที่เรามี และหาใหม่ที่เราขาด
1.
วัสดุอุปกรณ์เก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่
1.1
โครงสร้างของเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP
1.2
Filter holder
2. Spare part ที่สามารถใช้นำมางานได้
2.1
ชุดควบคุมเครื่องวัด
2.2
Housing Motor with motor flang
2.3 Motor , Support
3. วัสดุอุปกรณ์ที่จัดซื้อใหม่
3.1
Flow Recorder
3.2
สายไฟ Main พร้อมปลั๊กแบบสามขา
3.3
น็อตขนาดต่างๆ สำหรับล็อคตัวเครื่องและชุดควบคุม
3.4
สีสเปรย์
-
ตรวจสอบโครงสร้างเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP และทำความสะอาดตัวเครื่อง
-
ปรับปรุง
ซ่อมแซมโครงสร้างในส่วนที่ชำรุด
โดยการจัดหาชิ้นส่วนของโครงสร้างเครื่องวัดปริมาณฝุ่น TSP มาใส่เพิ่มเติมให้มีสภาพที่มั่นคง
- ตรวจสอบอุปกรณ์
และประกอบเพื่อรอใช้งาน
: ชุด Timer
: ชุด Flow Recorder
: ชุด Filter
holder
-
นำชุดอุปกรณ์ที่ประกอบไว้
ทดลองใส่ในโครงสร้างเพื่อจัดทำจุดล็อคของอุปกรณ์กับตัวโครงสร้าง
5ทำสีตัวเครื่องใหม่ และ ประกอบชุดอุปกรณ์เข้ากับตัวเครื่อง

-
ทดสอบเดินเครื่อง
พร้อมกับเปรียบเทียบกับเครื่องที่ทำงานในปกติ
ซึ่งใน
โปรเจคนี้ก็ผ่านตามมาตรฐาน ทุกอย่างครับ
ซึ่งแน่นอนครับ ผลที่ได้คือ
- เพิ่มทักษะ ความรู้ความสามรถ ความสามัคคี ให้กับพนักงาน
- ช่วยบริษัทประหยัดงบประมาณในการซื้อเครื่องใหม่ ประหยัดได้หลักแสน
บาทเลยทีเดียว
- ช่วยโลก มีเครื่องตรวจวัดฝุ่นเพิ่มขึ้นอีก
และลดขยะจากที่จะทิ้งก็นำมาทำใหม่
- ฯลฯ อีกมากมาย
สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอขอบคุณบริษัทอีกครั้งครับ ถึงแม้การทำโปรเจคนี้
เราเป็นผู้ทำให้ประหยัดงบให้บริษัท แต่ก็ทำให้เรารู้ครับว่า ทั้งหัวหน้าทุกระดับ
แล้วก็บริษัทที่ผมอยู่ปัจจุบันนี้ มีความรัก
และเอาใจใส่ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังด้วยครับ
ขอบคุณที่ทำให้วัยรุ่นที่มีใจรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างผมได้รู้สึกดีใจ
ภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ครับ โอกาสหน้าดีดี จะมีเขียนบทความ
เกี่ยวกับ GI5 ( Geen
Industry ) ระดับสูงสุด ระดับที่ 5 นั่นเอง
ซึงผมก็พอรู้ว่าคืออะไร ที่บริษัทได้รางวัลมา แต่รายละเอียด
หลักการที่แท้จริงผมยังไม่แม่นพอ เอาไว้โอกาสหน้านะครับ
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น